จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันพุธที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อการทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น พ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่ เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ

ความหมายของระบบปฏิบัติการ
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS (Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูลการติดต่อกับผู้ใช้ โดยทําหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ

ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ระบบต่างๆ
การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สํ าคัญ ๆ มีดังนี้

1. ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System)
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ
สําหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย
ความจําก่อน จากนั้น DOS จะไปทําหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคําสั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นํ าไป
ปฏิบัติตาม โดยการทํางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคําสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:\>)
ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจําคําสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ
DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก


2 .ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows
Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้
(User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคําสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic
User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทํางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คําสั่ง
ที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกัน
ซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทํางานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรม
เดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทํางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับ
ไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์
ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์.ด (Clipboard) ระบบ Windows ทําให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถ
ทําความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น

3. ระบบปฏิบัติการ Unix
Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต๋อย่างใด แต่Unix เป็น
ระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับ
ระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนอง
การใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser
system) และสามารถทํางานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลาย
ภารกิจ (Multitasking system)

4. ระบบปฏิบัติการ Linux
Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000
เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทํ างานบนระบบ Linux
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็
คือ ระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ
โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทําให้การขยายตัวของ Linux
เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น
รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทํางานแบบหลายซีพียู
หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทําให้ระบบLinux สามารถนําไปใช้สําหรับทํางาน
เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทํางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ
บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค
(SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่า
ขณะนี้ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซีหรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่
ก็มีผู้ใช้ จํานวนไม่น้อยที่สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux และเรื่องของการ
ดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วยสําหรับดําเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น
…………………………………………………………

การเลือกระบบปฏิบัติการให้กับคอมพิวเตอร์ (OS)
ครั้งก่อน ผมพูดถึงการเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กันไปแล้ว..ครั้งนี้ผมจะพูดถึงวิธีการประกอบกันบ้าง..แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องผมจะขอพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์กันก่อน..
ระบบปฏิบัติการ (OS) <-- มาจาก Operating System แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1.Unix เป็น OS ที่ใช้สำหรับ เครื่อง Server เพราะเป็น OS ที่มีเสถียรถาพมากที่สุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปเพราะใช้ยากต้องมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และไม่สนับสนุนพวก Multimedia ต่าง ๆ ปัจจุบันมี OS ที่เป็น Unix ที่พัฒนามาให้ใช้งานง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปเพราะจะมีลักษณะ คล้ายกับ Windows ของ Microsoft เราเรียก OS ตัวนี้ว่า Linux เป็น OS ที่สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เพราะเป็น OS ที่แจก Source code เพื่อนำไปพัฒนา ก็มีอยู่หลาย ๆ ค่ายที่นำ Linux ไปพัฒนา แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ Redhat Linux เพราะการใช้งานง่ายคล้าย Windows สำหรับที่เป็นภาษาไทย ตอนนี้ เนคเทค ได้พัฒนาจนสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ..สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ก็สามารถ down load ได้จาก http://www.nectec.or.th
2. Apple OS เป็น OS ที่ใช้สำหรับเครื่อง Max เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ Graffic design อะไรทำนองนั้นไม่เหมาะสำหรับ User อย่างเรา ๆ หรอกครับ..
3. Windows เป็น OS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึงประมาณ 90 % ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เพราะมีลักษณะการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์มากนัก สนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ Windows ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานหลาย version ด้วยกัน ทั้งที่ให้เป็น Server และ Home use ทั่ว ๆ ดังนี้

>>Home use
1) Windows 3.11 เป็น OS แบบ 16 bit เป็น version แรกของ Windows ที่ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่สนับสนุนก็น้อยตามไปด้วย..
2) Windows 95 เป็น OS แบบ 32 bit พัฒนาขีดความสามารถขึ้นมาจากเดิม มีฟีเวอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่ version นี้ยังมี bug มากไม่ค่อยเสถียรพอ..
3) Windows 98 เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาจาก 95 แก้ไข bug ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ มีการนำเอา browser ยอดนิยมอย่าง IE ติดมาให้ด้วย version นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก..
4) Windows 98 SE เป็น OS แบบ 32 bit ที่แก้ไข version 98 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก้ไข bug และเพิ่มฟีเวอร์ใหม่ ๆ มากมายเช่นสามารถทำเป็น Server แชร์ IP ให้กับเครื่องลูกได้ และนำเอา IE 5 ติดมาด้วย นับว่า version นี้เป็น version ที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเสถียรภาพมากที่สุดแล้ว ในตระกูลของ Windows 98
5) Windows Me เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาสำหรับ Home use โดยเฉพาะ ตัดเอา Ms-Dos ออกไปเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพให้กับระบบ สนับสนุน Multimedia สมบูรณ์แบบที่สุด..ตอนนี้ผมเองก็ลองใช้อยู่ครับ..ยอมรับว่าดีมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน 98 ที่ผ่านมาครับ..
>>Server
1) Windows NT4 มีความเสถียรถาพสูงทำงาน เป็น Srever การใช้งานผู้ใช้ต้องมีความรู้พอสมควรเพราะลักษณะการใช้งานคล้ายกับ Unix แต่จะมีระบบ Graffic ที่ดีกว่า..
2) Windows 2000 เป็น OS ที่เป็น NT พัฒนามาจาก NT4 มีความเสถียรภาพสูง และรองรับ Multimedia ใช้เป็น Server สนับสนุนการใช้งานแบบ Multi user มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม..มี 2 version ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม..
" พูดถึง Windows ผมก็อยากที่จะให้ทุก ๆ ท่านมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Windows 98 กับ Windows 2000 ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ดังที่ผมได้พูดไว้แล้ว..บางท่านยังเข้าใจผิดว่า Windows 2000 เป็น version ใหม่ล่าสุดที่มาแทนที่ Windows 98 SE เวลาจะซื้อเครื่องก็มักจะถามว่า เป็น Windows 2000 หรือเปล่า..อะไรทำนองนี้ ผมก็อยากให้ท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วยนะครับ..ตอนนี้ที่เหมาะสำหรับ User ทั่ว ๆ ไป ก็คือ Windows 98 SE ครับ..ดีที่สุดแล้ว.."
………………………………………………………………………………………….

ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการ นี่นะครับ ก็หมายถึง ชุดของโปรแกรมที่อยู่ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ครับ จะมีหน้าที่ในการควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำสั่งสำหรับควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ครับ ตัวอย่างของระบบปฏิบัติการนะครับ ก็ได้แก่ MS - DOS , UNIX , LINUX , Windows Me , Windows XP เหล่านี้เป็นต้นครับ ระบบปฏิบัติการนี้นะครับจะทำงานอยู่เบื้องหลังของผู้ใช้ครับ โดยระบบปฏิบัติการนี้ก็มีหน้าที่หลักๆ ดังนี้ครับ
• อันแรกนี้ก็คือการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ ครับ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง ที่เก็บข้อมูลสำรอง หน่วยความจำ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้นครับ
• อันที่สองนี้นะครับก็คือจัดการในส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ครับ
• และในข้อนี้ก็ไดแก่ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อื่นครับ เช่น และการแสดงผล เป็นต้น โดยปกติแล้วโปรแกรมประยุกต์จะต้องทำงานผ่านระบบปฏิบัติการครับ
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานในปัจจุบันนี้นะครับ จะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ครับ เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วด้วยครับ ถึงแม้คนที่ไม่ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย ก็สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ได้ แต่ในที่นี้นะครับผมจะขอกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในอดีตและในปัจจุบันนะครับแต่ในที่นี่ผมจะขอกล่าวถึง เพียงสองอย่างนะครับ ซึ่งได้แก่ MS – DOS และก็ Microsoft Windows สองอย่างนี้นะครับ
• ในข้อหนึ่งนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการ MS – DOS ครับ ซึ่ง เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการก็จะถูกเรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ใน หน่วยความจำของเครื่องนะครับเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้ทันที ที่ต้องการนะครับ ซึ่งขั้นตอนที่ย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำของเครื่องนั้นเรียกว่า การบูตระบบ ครับ ซึ่งเมื่อเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้น โปรแกรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใน หน่วยความจำรอม จะเรียกเอาส่วนประกอบพื้นฐานที่จำเป็นของระบบปฏิบัติการจากฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำหลักนะครับ ซึ่งจะได้ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น C > หรือ C:\ > นี่นะครับ โดยที่หมายถึงดิสก์ไดรฟ์ที่ทำงานอยู่ และเครื่องหมาย > หมายถึงการเตรียมพร้อมที่จะทำงานจากนั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์คำสั่งของ MS – DOS ได้ทันทีครับเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์
ส่วนในข้อนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ครับ ผมจะกล่าวรายละเอียดเลยนะครับ คือ ไมโครซอฟต์วินโดว์นี่นะครับหรือที่นิยมเรียกกันว่า วินโดว์ นั่นแหละครับ ซึ่งมีระบบการติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบกราฟิกที่มีสีสันสวยงามมากครับและสามารถใช้ได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้บนระบบวินโดว์นี้นะครับก็จะทำงานกับ เมนู และรูปภาพที่เรียกว่า ไอคอน แทนที่จะเป็นการพิมพ์คำสั่งต่าง ๆ ลงไปครับ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้ในปัจจุบันนะครับก็ได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องนะครับ ซึ่งก็ได้มีสีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นก่อนๆ นะครับ ถึงแม้ว่าวินโดว์จะเป็นระบบที่ทำงานด้วยกราฟิกที่มีสีสันสวยงานแต่การทำงาน ของวินโดว์นี้นะครับก็ยังทำงานภายใต้การทำงานของดอสครับ เพียงแต่ระบบวินโดว์นี้เราจะไม่จำเป็นต้องรู้คำสั่งของดอสเท่านั้นเอง เพราะเราใช้งานคำสั่งสำเร็จรูปด้วยเมนูบนวินโดว์ ครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่าย
ระบบปฏิบัติการนี่ นะครับ คือระบบปฏิบัติการสำหรับจัดการงานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์นะครับ และช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ครับ อย่างเช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน เป็นต้น ระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี่นะครับจะมีคุณสมบัติในการจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายและ การใช้งานอุปกรณ์ร่วมกันนะครับ รวมทั้งยังมีระบบการป้องกันการสูญหายของข้อมูลอีกด้วยครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยมใช้ปัจจุบันนี้นะครับจะใช้หลักการประมวลผลแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ นะครับ โดยส่วนประกอบสำหรับการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลและการจัดการโปรแกรมนั้นะครับจะทำงานอยู่บน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับในขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี้นะครับจะอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ครับ เช่น การติดต่อกับผู้ใช้ นะครับเหล่านี้เป็นต้น การจัดการให้ผู้ใช้เห็นว่างานและอุปกรณ์ทั้งหลายที่ใช้นั้นเสมือนอยู่บนเครื่องไคลเอนต์เองนะครับ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอันหนึ่งของระบบปฏิบัติการเครือข่ายด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้นะครับอย่างเช่นเครื่องระดับเมนเฟรมนี่นะครับ ได้ถูกนำมาใช้ในด้านธุรกิจและการศึกษานะครับ ซึ่งจะมีผู้ใช้งานพร้อมๆ กันจำนวนมากนะครับ ทำให้ระบบปฏิบัติการของเครื่องระดับนี้มีการทำงานที่ซับซ้อนมาก โดยต้องทำการดูแลสั่งงานโปรแกรมพร้อมๆ กันจำนวนหลายๆ โปรแกรมนะครับ ดูแลในการเข้าใช้งานเครื่องของผู้ใช้จำนวนหลายๆ คนนะครับ ดูแลจัดลำดับและแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ใช้ ตลอดจนการรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการแบบเปิด
ผมต้องขอเล่ารายละเอียดสักเล็กน้อยนะครับ คือว่า ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการก็คือบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์นะครับ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงถูกออกแบบให้สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องของบริษัทเท่านั้นนะครับ ซึ่งเราเรียกระบบปฏิบัติการประเภทนี้ว่า ระบบปฏิบัติการแบบปิด ครับ ใน ปัจจุบันนี้นะครับเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบการสามารถนำไปใช้งานบนเครื่องต่าง ๆ กันได้ซึ่งระบบปฏิบัติการแบบนี้นะครับก็คือ ระบบปฏิบัติการแบบเปิด นั่นเองครับ ก็อย่างเช่น UNIX หรืออีกระบบหนึ่งนะครับก็คือ ระบบ LINUX นี่เองครับ นี่แหละครับ คือระบบปฏิบัติการแบบเปิดครับ
http://www.geocities.com/ourbenja/comx01.htm
http://www.kingsolder.com/computer/os.asp
ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อการทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น พ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่ เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ

ความหมายของระบบปฏิบัติการ
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS (Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูลการติดต่อกับผู้ใช้ โดยทําหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ

ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ระบบต่างๆ
การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สํ าคัญ ๆ มีดังนี้

1. ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System)
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ
สําหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย
ความจําก่อน จากนั้น DOS จะไปทําหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคําสั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นํ าไป
ปฏิบัติตาม โดยการทํางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคําสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:\>)
ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจําคําสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ
DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก


2 .ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows
Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้
(User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคําสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic
User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทํางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คําสั่ง
ที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกัน
ซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทํางานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรม
เดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทํางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับ
ไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์
ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์.ด (Clipboard) ระบบ Windows ทําให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถ
ทําความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น

3. ระบบปฏิบัติการ Unix
Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต๋อย่างใด แต่Unix เป็น
ระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับ
ระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนอง
การใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser
system) และสามารถทํางานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลาย
ภารกิจ (Multitasking system)

4. ระบบปฏิบัติการ Linux
Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000
เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทํ างานบนระบบ Linux
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็
คือ ระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ
โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทําให้การขยายตัวของ Linux
เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น
รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทํางานแบบหลายซีพียู
หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทําให้ระบบLinux สามารถนําไปใช้สําหรับทํางาน
เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทํางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ
บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค
(SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่า
ขณะนี้ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซีหรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่
ก็มีผู้ใช้ จํานวนไม่น้อยที่สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux และเรื่องของการ
ดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วยสําหรับดําเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น
…………………………………………………………

การเลือกระบบปฏิบัติการให้กับคอมพิวเตอร์ (OS)
ครั้งก่อน ผมพูดถึงการเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กันไปแล้ว..ครั้งนี้ผมจะพูดถึงวิธีการประกอบกันบ้าง..แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องผมจะขอพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์กันก่อน..
ระบบปฏิบัติการ (OS) <-- มาจาก Operating System แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1.Unix เป็น OS ที่ใช้สำหรับ เครื่อง Server เพราะเป็น OS ที่มีเสถียรถาพมากที่สุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปเพราะใช้ยากต้องมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และไม่สนับสนุนพวก Multimedia ต่าง ๆ ปัจจุบันมี OS ที่เป็น Unix ที่พัฒนามาให้ใช้งานง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปเพราะจะมีลักษณะ คล้ายกับ Windows ของ Microsoft เราเรียก OS ตัวนี้ว่า Linux เป็น OS ที่สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เพราะเป็น OS ที่แจก Source code เพื่อนำไปพัฒนา ก็มีอยู่หลาย ๆ ค่ายที่นำ Linux ไปพัฒนา แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ Redhat Linux เพราะการใช้งานง่ายคล้าย Windows สำหรับที่เป็นภาษาไทย ตอนนี้ เนคเทค ได้พัฒนาจนสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ..สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ก็สามารถ down load ได้จาก http://www.nectec.or.th
2. Apple OS เป็น OS ที่ใช้สำหรับเครื่อง Max เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ Graffic design อะไรทำนองนั้นไม่เหมาะสำหรับ User อย่างเรา ๆ หรอกครับ..
3. Windows เป็น OS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึงประมาณ 90 % ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เพราะมีลักษณะการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์มากนัก สนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ Windows ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานหลาย version ด้วยกัน ทั้งที่ให้เป็น Server และ Home use ทั่ว ๆ ดังนี้

>>Home use
1) Windows 3.11 เป็น OS แบบ 16 bit เป็น version แรกของ Windows ที่ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่สนับสนุนก็น้อยตามไปด้วย..
2) Windows 95 เป็น OS แบบ 32 bit พัฒนาขีดความสามารถขึ้นมาจากเดิม มีฟีเวอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่ version นี้ยังมี bug มากไม่ค่อยเสถียรพอ..
3) Windows 98 เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาจาก 95 แก้ไข bug ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ มีการนำเอา browser ยอดนิยมอย่าง IE ติดมาให้ด้วย version นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก..
4) Windows 98 SE เป็น OS แบบ 32 bit ที่แก้ไข version 98 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก้ไข bug และเพิ่มฟีเวอร์ใหม่ ๆ มากมายเช่นสามารถทำเป็น Server แชร์ IP ให้กับเครื่องลูกได้ และนำเอา IE 5 ติดมาด้วย นับว่า version นี้เป็น version ที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเสถียรภาพมากที่สุดแล้ว ในตระกูลของ Windows 98
5) Windows Me เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาสำหรับ Home use โดยเฉพาะ ตัดเอา Ms-Dos ออกไปเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพให้กับระบบ สนับสนุน Multimedia สมบูรณ์แบบที่สุด..ตอนนี้ผมเองก็ลองใช้อยู่ครับ..ยอมรับว่าดีมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน 98 ที่ผ่านมาครับ..
>>Server
1) Windows NT4 มีความเสถียรถาพสูงทำงาน เป็น Srever การใช้งานผู้ใช้ต้องมีความรู้พอสมควรเพราะลักษณะการใช้งานคล้ายกับ Unix แต่จะมีระบบ Graffic ที่ดีกว่า..
2) Windows 2000 เป็น OS ที่เป็น NT พัฒนามาจาก NT4 มีความเสถียรภาพสูง และรองรับ Multimedia ใช้เป็น Server สนับสนุนการใช้งานแบบ Multi user มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม..มี 2 version ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม..
" พูดถึง Windows ผมก็อยากที่จะให้ทุก ๆ ท่านมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Windows 98 กับ Windows 2000 ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ดังที่ผมได้พูดไว้แล้ว..บางท่านยังเข้าใจผิดว่า Windows 2000 เป็น version ใหม่ล่าสุดที่มาแทนที่ Windows 98 SE เวลาจะซื้อเครื่องก็มักจะถามว่า เป็น Windows 2000 หรือเปล่า..อะไรทำนองนี้ ผมก็อยากให้ท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วยนะครับ..ตอนนี้ที่เหมาะสำหรับ User ทั่ว ๆ ไป ก็คือ Windows 98 SE ครับ..ดีที่สุดแล้ว.."
………………………………………………………………………………………….

ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการ นี่นะครับ ก็หมายถึง ชุดของโปรแกรมที่อยู่ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ครับ จะมีหน้าที่ในการควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำสั่งสำหรับควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ครับ ตัวอย่างของระบบปฏิบัติการนะครับ ก็ได้แก่ MS - DOS , UNIX , LINUX , Windows Me , Windows XP เหล่านี้เป็นต้นครับ ระบบปฏิบัติการนี้นะครับจะทำงานอยู่เบื้องหลังของผู้ใช้ครับ โดยระบบปฏิบัติการนี้ก็มีหน้าที่หลักๆ ดังนี้ครับ
• อันแรกนี้ก็คือการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ ครับ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง ที่เก็บข้อมูลสำรอง หน่วยความจำ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้นครับ
• อันที่สองนี้นะครับก็คือจัดการในส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ครับ
• และในข้อนี้ก็ไดแก่ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อื่นครับ เช่น และการแสดงผล เป็นต้น โดยปกติแล้วโปรแกรมประยุกต์จะต้องทำงานผ่านระบบปฏิบัติการครับ
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานในปัจจุบันนี้นะครับ จะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ครับ เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วด้วยครับ ถึงแม้คนที่ไม่ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย ก็สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ได้ แต่ในที่นี้นะครับผมจะขอกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในอดีตและในปัจจุบันนะครับแต่ในที่นี่ผมจะขอกล่าวถึง เพียงสองอย่างนะครับ ซึ่งได้แก่ MS – DOS และก็ Microsoft Windows สองอย่างนี้นะครับ
• ในข้อหนึ่งนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการ MS – DOS ครับ ซึ่ง เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการก็จะถูกเรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ใน หน่วยความจำของเครื่องนะครับเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้ทันที ที่ต้องการนะครับ ซึ่งขั้นตอนที่ย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำของเครื่องนั้นเรียกว่า การบูตระบบ ครับ ซึ่งเมื่อเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้น โปรแกรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใน หน่วยความจำรอม จะเรียกเอาส่วนประกอบพื้นฐานที่จำเป็นของระบบปฏิบัติการจากฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำหลักนะครับ ซึ่งจะได้ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น C > หรือ C:\ > นี่นะครับ โดยที่หมายถึงดิสก์ไดรฟ์ที่ทำงานอยู่ และเครื่องหมาย > หมายถึงการเตรียมพร้อมที่จะทำงานจากนั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์คำสั่งของ MS – DOS ได้ทันทีครับเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์
ส่วนในข้อนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ครับ ผมจะกล่าวรายละเอียดเลยนะครับ คือ ไมโครซอฟต์วินโดว์นี่นะครับหรือที่นิยมเรียกกันว่า วินโดว์ นั่นแหละครับ ซึ่งมีระบบการติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบกราฟิกที่มีสีสันสวยงามมากครับและสามารถใช้ได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้บนระบบวินโดว์นี้นะครับก็จะทำงานกับ เมนู และรูปภาพที่เรียกว่า ไอคอน แทนที่จะเป็นการพิมพ์คำสั่งต่าง ๆ ลงไปครับ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้ในปัจจุบันนะครับก็ได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องนะครับ ซึ่งก็ได้มีสีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นก่อนๆ นะครับ ถึงแม้ว่าวินโดว์จะเป็นระบบที่ทำงานด้วยกราฟิกที่มีสีสันสวยงานแต่การทำงาน ของวินโดว์นี้นะครับก็ยังทำงานภายใต้การทำงานของดอสครับ เพียงแต่ระบบวินโดว์นี้เราจะไม่จำเป็นต้องรู้คำสั่งของดอสเท่านั้นเอง เพราะเราใช้งานคำสั่งสำเร็จรูปด้วยเมนูบนวินโดว์ ครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่าย
ระบบปฏิบัติการนี่ นะครับ คือระบบปฏิบัติการสำหรับจัดการงานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์นะครับ และช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ครับ อย่างเช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน เป็นต้น ระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี่นะครับจะมีคุณสมบัติในการจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายและ การใช้งานอุปกรณ์ร่วมกันนะครับ รวมทั้งยังมีระบบการป้องกันการสูญหายของข้อมูลอีกด้วยครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยมใช้ปัจจุบันนี้นะครับจะใช้หลักการประมวลผลแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ นะครับ โดยส่วนประกอบสำหรับการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลและการจัดการโปรแกรมนั้นะครับจะทำงานอยู่บน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับในขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี้นะครับจะอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ครับ เช่น การติดต่อกับผู้ใช้ นะครับเหล่านี้เป็นต้น การจัดการให้ผู้ใช้เห็นว่างานและอุปกรณ์ทั้งหลายที่ใช้นั้นเสมือนอยู่บนเครื่องไคลเอนต์เองนะครับ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอันหนึ่งของระบบปฏิบัติการเครือข่ายด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้นะครับอย่างเช่นเครื่องระดับเมนเฟรมนี่นะครับ ได้ถูกนำมาใช้ในด้านธุรกิจและการศึกษานะครับ ซึ่งจะมีผู้ใช้งานพร้อมๆ กันจำนวนมากนะครับ ทำให้ระบบปฏิบัติการของเครื่องระดับนี้มีการทำงานที่ซับซ้อนมาก โดยต้องทำการดูแลสั่งงานโปรแกรมพร้อมๆ กันจำนวนหลายๆ โปรแกรมนะครับ ดูแลในการเข้าใช้งานเครื่องของผู้ใช้จำนวนหลายๆ คนนะครับ ดูแลจัดลำดับและแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ใช้ ตลอดจนการรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการแบบเปิด
ผมต้องขอเล่ารายละเอียดสักเล็กน้อยนะครับ คือว่า ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการก็คือบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์นะครับ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงถูกออกแบบให้สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องของบริษัทเท่านั้นนะครับ ซึ่งเราเรียกระบบปฏิบัติการประเภทนี้ว่า ระบบปฏิบัติการแบบปิด ครับ ใน ปัจจุบันนี้นะครับเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบการสามารถนำไปใช้งานบนเครื่องต่าง ๆ กันได้ซึ่งระบบปฏิบัติการแบบนี้นะครับก็คือ ระบบปฏิบัติการแบบเปิด นั่นเองครับ ก็อย่างเช่น UNIX หรืออีกระบบหนึ่งนะครับก็คือ ระบบ LINUX นี่เองครับ นี่แหละครับ คือระบบปฏิบัติการแบบเปิดครับ
http://www.geocities.com/ourbenja/comx01.htm
http://www.kingsolder.com/computer/os.asp
ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์

ระบบปฏิบัติการเป็นโปรแกรม (Software) ที่ทําหน้าที่ ควบคุมการทํางานของ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่ต่อพ่วงกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งระบบปฏิบัติการจะทําหน้าที่ เป็น ตัวกลางในการติดต่อกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องโดยตรงและโปรแกรมการใช์งานต่าง ๆ

ความหมายของระบบปฏิบัติการ
โปรแกรมระบบปฏิบัติการ หรือเรียกสั้น ๆ ว่า OS (Operating System) เป็นโปรแกรม ควบคุมการทํางานของเครื่องคอมพิวเตอร์ ทําหน้าที่ควบคุมการทำงานต่าง ๆ เช่น การแสดงผล ข้อมูลการติดต่อกับผู้ใช้ โดยทําหน้าที่เป็นสื่อกลาง ระหว่างผู้ใช้กับเครื่องให้สามารถสื่อสารกันได้ควบคุมและจัดสรรทรัพยากรให้กับโปรแกรมต่าง ๆ

ระบบปฏิบัติการ (Operating System) ระบบต่างๆ
การทํางานของคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถทํางานด้วยตัวเองได้ แต่จะต้องอาศัยโปรแกรมสั่งให้คอมพิวเตอร์ทํางานซึ่งเรียกว่า “ซอฟต์แวร์” (Software) โดยทั่วไปซอฟต์แวร์จะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ โปรแกรมสําเร็จรูป และโปรแกรมระบบปฏิบัติการ ซึ่งระบบปฏิบัติการนี้จะมีหน้าที่ ในการจัดการและควบคุมการทํางานและอุปกรณ์ต่างๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น การจัดการเกี่ยวกับการแสดงผลบนจอภาพ รับข้อมูลทางแป้นพิมพ์หรือเมาส์ การจัดการเกี่ยวกับแฟ้มข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลลงแฟ้ม การติดตั้งโปรแกรม นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการยังช่วยสร้างส่วนติดต่อ ระหว่างผู้ใช้กับคอมพิวเตอร์ (User interface) ให้ง่ายต่อการใช้งาน ระบบปฏิบัติการมีอยู่หลาย ระบบ ซึ่งมีการพัฒนาจากผู้ผลิตหลายบริษัท แต่ที่สํ าคัญ ๆ มีดังนี้

1. ระบบปฏิบัติการ DOS (Disk Operating System)
ระบบ DOS เป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยบริษัท IBM เพื่อให้เป็ระบบปฏิบัติการ
สําหรับเครื่องพีซี ซึ่งตัวโปรแกรม DOS จะถูก Load หรืออ่านจากแผ่นดิสก์เข้าไปเก็บไว้ในหน่วย
ความจําก่อน จากนั้น DOS จะไปทําหน้าที่เป็น ผู้ประสานงานต่าง ๆ ระหว่างผู้ใช้กับอุปกรณ์
คอมพิวเตอร์ทั้งหลายโดยอัตโนมัติ โดยที่ DOS จะรับคําสั่งจากผู้ใช้หรือโปรแกรมแล้ว นํ าไป
ปฏิบัติตาม โดยการทํางานจะเป็นแบบ Text mode สั่งงานโดยการกดคําสั่งเข้าไปที่ซีพร็อม (C:\>)
ดังนั้น ผู้ใช้ระบบนี้จึงต้องจําคําสั่งต่าง ๆ ในการใช้งานจึงจะสามารถใช้งานได้ ระบบปฏิบัติการ
DOS ถือได้ว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่เก่าแก่. และปัจจุบันนี้มีการใช้งานน้อยมาก


2 .ระบบปฏิบัติการ Microsoft Windows
Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาโดยบริษัท Microsoft ซึ่งจะมีส่วนติดต่อกับ ผู้ใช้
(User interface) เป็นแบบกราฟิก หรือเป็นระบบที่ใช้รูปภาพแทนคําสั่ง เรียกว่า GUI (Graphic
User Interface) โดยสามารถสั่งให้เครื่องทํางานได้โดยใช้เมาส์คลิกที่สัญลักษณ์หรือคลิกที่คําสั่ง
ที่ต้องการ ระบบนี้อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมได้มากกว่า 1 โปรแกรมในขณะเดียวกัน
ซึ่งถ้าเป็นระบบ DOS หากต้องการเปลี่ยนไปทํางานโปรแกรมอื่น ๆ จะต้องออกจาก โปรแกรม
เดิมก่อนจึงจะสามารถไปใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ได้ ในลักษณะการทํางานของ Windows จะมีส่วนที่เรียกว่า “หน้าต่าง” โดยแต่ละโปรแกรมจะถือเป็นหน้าต่างหนึ่งหน้าต่าง ผู้ใช้สามารถ สลับ
ไปมาระหว่างแต่ละหน้าต่างได้ นอกจากนี้ระบบ Windows ยังให้โปรแกรมต่าง ๆ สามารถ แชร์
ข้อมูลระหว่างกันได้ผ่านทางคลิปบอ์.ด (Clipboard) ระบบ Windows ทําให้ผู้ใช้ ทั่ว ๆไปสามารถ
ทําความเข้าใจ เรียนรู้และใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ง่ายขึ้น

3. ระบบปฏิบัติการ Unix
Unix เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้บนเครื่อง SUN ของบริษัท SUN Microsystems แต่ไม่ได้เป็นคู่แข่งกับบริษัท Microsoft ในเรื่องของระบบปฏิบัติการบนเครื่อง PC แต๋อย่างใด แต่Unix เป็น
ระบบปฏิบัติการที่ใช็เทคโนโลยีแบบเปิด (Open system) ซึ่งเป็นแนวคิดที่ผู้ใช้ไม่ต้อง ผูกติดกับ
ระบบใดระบบหนึ่งหรืออุปกรณ์ยี่ห้อเดียวกัน นอกจากนี้ Unix ยังถูกออกแบบมาเพื่อ ตอบสนอง
การใช้งานในลักษณะให้มีผู้ใช้ได้หลายคนในเวลาเดียวกัน เรียกว่า ระบบหลายผู้ใช้ (Multiuser
system) และสามารถทํางานได้หลาย ๆ งานในเวลาเดียวกัน ในลักษณะที่เรียกว่า ระบบหลาย
ภารกิจ (Multitasking system)

4. ระบบปฏิบัติการ Linux
Linux เป็นระบบปฏิบัติการเช่นเดียวกับ DOS, Windows หรือ Unix โดยLinuxนั้นจัด ว่าเป็นระบบปฏิบัติการ Unix ประเภทหนึ่ง การที่Linuxเป็นที่กล่าวขานกันมากในช่วงปี 1999 – 2000
เนื่องจากความสามารถของตัวระบบปฏิบัติ การและโปรแกรมประยุกต์ที่ ทํ างานบนระบบ Linux
โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรแกรมในตระกูลของ GNU (GNU’s Not UNIX) และสิ่งที่สําคัญที่สุดก็
คือ ระบบ Linux เป็นระบบปฏิบัติการประเภทฟรีแวร์ (Free ware) คือไม่เสียค่าใช้จ่ายในการซื้อ
โปรแกรม Linux นั้นมี นักพัฒนาโปรแกรมจากทั่วโลกช่วยกันแก้ไข ทําให้การขยายตัวของ Linux
เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยในส่วนของใจกลางระบบปฏิบัติการ หรือ Kernel นั้นจะมีการพัฒนาเป็น
รุ่นที่ 2.2 (Linux Kernel 2.2) ซึ่งได้เพิ่มขีดความสามารถและสนับสนุนการทํางานแบบหลายซีพียู
หรือ SMP (Symmetrical Multi Processors) ซึ่งทําให้ระบบLinux สามารถนําไปใช้สําหรับทํางาน
เป็น Saver ขนาดใหญ่ได้ระบบ Linux ตั้งแต่รุ่น 4 นั้น สามารถทํางานได้บนซีพียูทั้ง 3 ตระกูล คือ
บนซีพียูของ อินเทล (PC Intel) ดิจิทัลอัลฟาคอมพิวเตอร์ (Digital Alpha Computer และซันสปาร์ค
(SUN SPARC) เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า RPM (Red Hat Package Management) ถึงแม้ว่า
ขณะนี้ Linux ยังไม่สามารถแทนที่ Microsoft Windows บนพีซีหรือ Mac OS ได้ทั้งหมดก็ตาม แต่
ก็มีผู้ใช้ จํานวนไม่น้อยที่สนใจมาใช้และช่วยพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บน Linux และเรื่องของการ
ดูแล ระบบ Linux นั้น ก็มีเครื่องมือช่วยสําหรับดําเนินการให้สะดวกยิ่งขึ้น
…………………………………………………………

การเลือกระบบปฏิบัติการให้กับคอมพิวเตอร์ (OS)
ครั้งก่อน ผมพูดถึงการเลือกซื้ออุปกรณ์เพื่อนำมาประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ กันไปแล้ว..ครั้งนี้ผมจะพูดถึงวิธีการประกอบกันบ้าง..แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องผมจะขอพูดถึงระบบปฏิบัติการ (OS) ที่ใช้กับคอมพิวเตอร์กันก่อน..
ระบบปฏิบัติการ (OS) <-- มาจาก Operating System แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1.Unix เป็น OS ที่ใช้สำหรับ เครื่อง Server เพราะเป็น OS ที่มีเสถียรถาพมากที่สุด ไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่ว ๆ ไปเพราะใช้ยากต้องมีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ขั้นสูง และไม่สนับสนุนพวก Multimedia ต่าง ๆ ปัจจุบันมี OS ที่เป็น Unix ที่พัฒนามาให้ใช้งานง่ายเหมาะสมกับผู้ใช้ทั่ว ๆ ไปเพราะจะมีลักษณะ คล้ายกับ Windows ของ Microsoft เราเรียก OS ตัวนี้ว่า Linux เป็น OS ที่สามารถนำมาใช้ได้โดยไม่ต้องเสียค่าลิขสิทธิ์ เพราะเป็น OS ที่แจก Source code เพื่อนำไปพัฒนา ก็มีอยู่หลาย ๆ ค่ายที่นำ Linux ไปพัฒนา แต่ที่ได้รับความนิยมก็คือ Redhat Linux เพราะการใช้งานง่ายคล้าย Windows สำหรับที่เป็นภาษาไทย ตอนนี้ เนคเทค ได้พัฒนาจนสามารถใช้ภาษาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ..สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ก็สามารถ down load ได้จาก http://www.nectec.or.th
2. Apple OS เป็น OS ที่ใช้สำหรับเครื่อง Max เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบ Graffic design อะไรทำนองนั้นไม่เหมาะสำหรับ User อย่างเรา ๆ หรอกครับ..
3. Windows เป็น OS ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดถึงประมาณ 90 % ของเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วโลก เพราะมีลักษณะการใช้งานที่ง่าย ไม่ต้องมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์มากนัก สนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม ฯลฯ Windows ในปัจจุบันมีให้เลือกใช้งานหลาย version ด้วยกัน ทั้งที่ให้เป็น Server และ Home use ทั่ว ๆ ดังนี้

>>Home use
1) Windows 3.11 เป็น OS แบบ 16 bit เป็น version แรกของ Windows ที่ใช้ทรัพยากรของระบบน้อยมาก แต่ประสิทธิภาพต่าง ๆ ที่สนับสนุนก็น้อยตามไปด้วย..
2) Windows 95 เป็น OS แบบ 32 bit พัฒนาขีดความสามารถขึ้นมาจากเดิม มีฟีเวอร์ต่าง ๆ เพิ่มเข้ามา แต่ version นี้ยังมี bug มากไม่ค่อยเสถียรพอ..
3) Windows 98 เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาจาก 95 แก้ไข bug ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น รวมทั้งสนับสนุน Multimedia อย่างสมบูรณ์ มีการนำเอา browser ยอดนิยมอย่าง IE ติดมาให้ด้วย version นี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก..
4) Windows 98 SE เป็น OS แบบ 32 bit ที่แก้ไข version 98 ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก้ไข bug และเพิ่มฟีเวอร์ใหม่ ๆ มากมายเช่นสามารถทำเป็น Server แชร์ IP ให้กับเครื่องลูกได้ และนำเอา IE 5 ติดมาด้วย นับว่า version นี้เป็น version ที่ดีที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และเสถียรภาพมากที่สุดแล้ว ในตระกูลของ Windows 98
5) Windows Me เป็น OS แบบ 32 bit ที่พัฒนามาสำหรับ Home use โดยเฉพาะ ตัดเอา Ms-Dos ออกไปเพื่อสร้างความมีเสถียรภาพให้กับระบบ สนับสนุน Multimedia สมบูรณ์แบบที่สุด..ตอนนี้ผมเองก็ลองใช้อยู่ครับ..ยอมรับว่าดีมาก ๆ ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือน 98 ที่ผ่านมาครับ..
>>Server
1) Windows NT4 มีความเสถียรถาพสูงทำงาน เป็น Srever การใช้งานผู้ใช้ต้องมีความรู้พอสมควรเพราะลักษณะการใช้งานคล้ายกับ Unix แต่จะมีระบบ Graffic ที่ดีกว่า..
2) Windows 2000 เป็น OS ที่เป็น NT พัฒนามาจาก NT4 มีความเสถียรภาพสูง และรองรับ Multimedia ใช้เป็น Server สนับสนุนการใช้งานแบบ Multi user มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยม..มี 2 version ให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม..
" พูดถึง Windows ผมก็อยากที่จะให้ทุก ๆ ท่านมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ Windows 98 กับ Windows 2000 ว่าจริง ๆ แล้วลักษณะการใช้งานแตกต่างกัน ดังที่ผมได้พูดไว้แล้ว..บางท่านยังเข้าใจผิดว่า Windows 2000 เป็น version ใหม่ล่าสุดที่มาแทนที่ Windows 98 SE เวลาจะซื้อเครื่องก็มักจะถามว่า เป็น Windows 2000 หรือเปล่า..อะไรทำนองนี้ ผมก็อยากให้ท่านทำความเข้าใจให้ถูกต้องด้วยนะครับ..ตอนนี้ที่เหมาะสำหรับ User ทั่ว ๆ ไป ก็คือ Windows 98 SE ครับ..ดีที่สุดแล้ว.."
………………………………………………………………………………………….

ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการ นี่นะครับ ก็หมายถึง ชุดของโปรแกรมที่อยู่ระหว่างฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ประยุกต์ครับ จะมีหน้าที่ในการควบคุมการปฏิบัติงานของฮาร์ดแวร์ และสนับสนุนคำสั่งสำหรับควบคุมการทำงานของฮาร์ดแวร์ประยุกต์ครับ ตัวอย่างของระบบปฏิบัติการนะครับ ก็ได้แก่ MS - DOS , UNIX , LINUX , Windows Me , Windows XP เหล่านี้เป็นต้นครับ ระบบปฏิบัติการนี้นะครับจะทำงานอยู่เบื้องหลังของผู้ใช้ครับ โดยระบบปฏิบัติการนี้ก็มีหน้าที่หลักๆ ดังนี้ครับ
• อันแรกนี้ก็คือการจัดส่วนประกอบต่าง ๆ ของระบบคอมพิวเตอร์ ครับ เช่น หน่วยประมวลผลกลาง ที่เก็บข้อมูลสำรอง หน่วยความจำ และเครื่องพิมพ์ เป็นต้นครับ
• อันที่สองนี้นะครับก็คือจัดการในส่วนของการติดต่อกับผู้ใช้ครับ
• และในข้อนี้ก็ไดแก่ให้บริการโปรแกรมประยุกต์อื่นครับ เช่น และการแสดงผล เป็นต้น โดยปกติแล้วโปรแกรมประยุกต์จะต้องทำงานผ่านระบบปฏิบัติการครับ
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานบนเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์
ระบบปฏิบัติการที่ใช้งานในปัจจุบันนี้นะครับ จะเป็นระบบปฏิบัติการวินโดว์ครับ เพราะสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็วด้วยครับ ถึงแม้คนที่ไม่ความรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เลย ก็สามารถใช้งานระบบปฏิบัติการวินโดว์ได้ แต่ในที่นี้นะครับผมจะขอกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการที่ใช้ในอดีตและในปัจจุบันนะครับแต่ในที่นี่ผมจะขอกล่าวถึง เพียงสองอย่างนะครับ ซึ่งได้แก่ MS – DOS และก็ Microsoft Windows สองอย่างนี้นะครับ
• ในข้อหนึ่งนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการ MS – DOS ครับ ซึ่ง เมื่อผู้ใช้เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบปฏิบัติการก็จะถูกเรียกจากฮาร์ดดิสก์มาไว้ใน หน่วยความจำของเครื่องนะครับเพื่อเตรียมที่จะใช้งานได้ทันที ที่ต้องการนะครับ ซึ่งขั้นตอนที่ย้ายระบบปฏิบัติการเข้าสู่หน่วยความจำของเครื่องนั้นเรียกว่า การบูตระบบ ครับ ซึ่งเมื่อเปิดสวิตช์เครื่องคอมพิวเตอร์ขึ้น โปรแกรมเล็ก ๆ ที่อยู่ใน หน่วยความจำรอม จะเรียกเอาส่วนประกอบพื้นฐานที่จำเป็นของระบบปฏิบัติการจากฮาร์ดดิสก์เข้ามาไว้ในหน่วยความจำหลักนะครับ ซึ่งจะได้ผลลัพธ์บนจอภาพเป็น C > หรือ C:\ > นี่นะครับ โดยที่หมายถึงดิสก์ไดรฟ์ที่ทำงานอยู่ และเครื่องหมาย > หมายถึงการเตรียมพร้อมที่จะทำงานจากนั้น ผู้ใช้ก็จะสามารถพิมพ์คำสั่งของ MS – DOS ได้ทันทีครับเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์
ส่วนในข้อนี้นะครับผมจะกล่าวถึง ระบบปฏิบัติการวินโดว์ ครับ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบันนี้ครับ ผมจะกล่าวรายละเอียดเลยนะครับ คือ ไมโครซอฟต์วินโดว์นี่นะครับหรือที่นิยมเรียกกันว่า วินโดว์ นั่นแหละครับ ซึ่งมีระบบการติดต่อกับผู้ใช้เป็นแบบกราฟิกที่มีสีสันสวยงามมากครับและสามารถใช้ได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้บนระบบวินโดว์นี้นะครับก็จะทำงานกับ เมนู และรูปภาพที่เรียกว่า ไอคอน แทนที่จะเป็นการพิมพ์คำสั่งต่าง ๆ ลงไปครับ ระบบปฏิบัติการวินโดว์ที่ใช้ในปัจจุบันนะครับก็ได้มีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องนะครับ ซึ่งก็ได้มีสีสันที่สวยงามมากขึ้นกว่าเดิม และสามารถใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าระบบปฏิบัติการวินโดว์ในรุ่นก่อนๆ นะครับ ถึงแม้ว่าวินโดว์จะเป็นระบบที่ทำงานด้วยกราฟิกที่มีสีสันสวยงานแต่การทำงาน ของวินโดว์นี้นะครับก็ยังทำงานภายใต้การทำงานของดอสครับ เพียงแต่ระบบวินโดว์นี้เราจะไม่จำเป็นต้องรู้คำสั่งของดอสเท่านั้นเอง เพราะเราใช้งานคำสั่งสำเร็จรูปด้วยเมนูบนวินโดว์ ครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่าย
ระบบปฏิบัติการนี่ นะครับ คือระบบปฏิบัติการสำหรับจัดการงานด้านการติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์นะครับ และช่วยให้คอมพิวเตอร์ที่ต่ออยู่กับเครือข่ายสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ครับ อย่างเช่น ใช้เครื่องพิมพ์ร่วมกัน เป็นต้น ระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี่นะครับจะมีคุณสมบัติในการจัดการเกี่ยวกับเครือข่ายและ การใช้งานอุปกรณ์ร่วมกันนะครับ รวมทั้งยังมีระบบการป้องกันการสูญหายของข้อมูลอีกด้วยครับ
ระบบปฏิบัติการเครือข่ายที่นิยมใช้ปัจจุบันนี้นะครับจะใช้หลักการประมวลผลแบบ ไคลเอนต์/เซิร์ฟเวอร์ นะครับ โดยส่วนประกอบสำหรับการเรียกใช้แฟ้มข้อมูลและการจัดการโปรแกรมนั้นะครับจะทำงานอยู่บน เครื่องเซิร์ฟเวอร์ครับในขณะที่ส่วนประกอบอื่นๆ ของระบบปฏิบัติการเครือข่ายนี้นะครับจะอยู่บนเครื่องไคลเอนต์ครับ เช่น การติดต่อกับผู้ใช้ นะครับเหล่านี้เป็นต้น การจัดการให้ผู้ใช้เห็นว่างานและอุปกรณ์ทั้งหลายที่ใช้นั้นเสมือนอยู่บนเครื่องไคลเอนต์เองนะครับ ก็ถือว่าเป็นหน้าที่หลักอันหนึ่งของระบบปฏิบัติการเครือข่ายด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการบนเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่
เครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่นี้นะครับอย่างเช่นเครื่องระดับเมนเฟรมนี่นะครับ ได้ถูกนำมาใช้ในด้านธุรกิจและการศึกษานะครับ ซึ่งจะมีผู้ใช้งานพร้อมๆ กันจำนวนมากนะครับ ทำให้ระบบปฏิบัติการของเครื่องระดับนี้มีการทำงานที่ซับซ้อนมาก โดยต้องทำการดูแลสั่งงานโปรแกรมพร้อมๆ กันจำนวนหลายๆ โปรแกรมนะครับ ดูแลในการเข้าใช้งานเครื่องของผู้ใช้จำนวนหลายๆ คนนะครับ ดูแลจัดลำดับและแบ่งปันทรัพยากรให้กับผู้ใช้ ตลอดจนการรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับของผู้ใช้แต่ละคนอีกด้วยนะครับ
ระบบปฏิบัติการแบบเปิด
ผมต้องขอเล่ารายละเอียดสักเล็กน้อยนะครับ คือว่า ในสมัยก่อนนั้นผู้ที่พัฒนาระบบปฏิบัติการก็คือบริษัทที่ผลิตคอมพิวเตอร์นะครับ ดังนั้นระบบปฏิบัติการจึงถูกออกแบบให้สามารถใช้ได้เฉพาะกับเครื่องของบริษัทเท่านั้นนะครับ ซึ่งเราเรียกระบบปฏิบัติการประเภทนี้ว่า ระบบปฏิบัติการแบบปิด ครับ ใน ปัจจุบันนี้นะครับเริ่มมีแนวโน้มที่จะทำให้ระบบการสามารถนำไปใช้งานบนเครื่องต่าง ๆ กันได้ซึ่งระบบปฏิบัติการแบบนี้นะครับก็คือ ระบบปฏิบัติการแบบเปิด นั่นเองครับ ก็อย่างเช่น UNIX หรืออีกระบบหนึ่งนะครับก็คือ ระบบ LINUX นี่เองครับ นี่แหละครับ คือระบบปฏิบัติการแบบเปิดครับ
http://www.geocities.com/ourbenja/comx01.htm
http://www.kingsolder.com/computer/os.asp